คณะต่างชาติ 25 คนลงพื้นที่เรียนรู้ เรียนลึกรากฐานปาล์มยั่งยืน สุราษฎร์ธานี…เมืองต้นแบบปาล์มยั่งยืนไทย

คณะดูงาน Roots of Sustainability Plan oil Tour ถ่ายภาพร่วมกันภายในงานการลงนาม MOU สนับสนุนการรวมกลุ่มและพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันประเทศไทย สู่การรับรองกระบวนการผลิตปาล์มน้ำมันยั่งยืนตามมาตรฐานโลก RSPO
©TASPO/ศรยุทธ รุ่งเรือง

14 – 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมหัวหน้าหน่วยราชการ นายไกรวุฒิ ศิริอนันตภัทร์ นายกสมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มและสมาชิกฯ นายตริน พงษ์เภตรา ประธาน สภาอุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายเกษียร ไลยโฆษิต ประธานหอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี ดร.วันสาด ศรีสุวรรณ. ประธานสภาเกษตรกร สุราษฎร์ธานี นายสุมาตร อินทรมณี นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประธานและผู้จัดการกลุ่มเกษตรกรรายย่อย สมาชิก RSPO ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีกว่า 60 ท่านร่วมจัดงานเลี้ยงต้อนรับคณะผู้แทนจากกระทรวงเกษตร ประเทศอินเดีย ผู้ประกอบการสมาชิก RSPO องค์กรพัฒนาเอกชน WWF และสื่อมวลชน จากประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงค์โปร์ สเปน ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์และ สหราชอาณาจักร กว่า 25 ชีวิต มาลงพื้นที่ศึกษาดูงาน “Roots of Sustainability Palm oil Tour” เพื่อเรียนรู้ต้นแบบการผลิตปาล์มน้ำมันยั่งยืนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี  ซึ่งเป็นงานต่อเนื่องจากงานสัมมนา ปาล์มน้ำมันยั่งยืนประจำปีของ RSPO จัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 11-13 พฤศจิกายน โดยงานเลี้ยงต้อนรับครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายปาล์มน้ำมันยั่งยืนประเทศไทย (TASPO) สมาคมโรงสกัดน้ำมันปาล์ม และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี

“การลงพื้นที่เพื่อศึกษาเรียนรู้นี้ มุ่งให้คณะได้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมการยกระดับของปาล์มน้ำมันไทยสู่ความยั่งยืน โดยยกจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมืองปาล์มน้ำมันที่มีพื้นที่ปลูกและได้รับการรับรองมาตรฐาน RSPO ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมีต้นแบบความสำเร็จที่สามารถศึกษาเรียนรู้ได้ครบวงจรตั้งแต่ การจัดการสวนปาล์มที่ดี ศูนย์วิจัยชนิดพันธุ์ปาล์มที่มีคุณภาพระดับประเทศ โรงสกัดน้ำมันปาล์มที่มีกระบวนการเพาะพันธ์ต้นกล้าอย่างเป็นระบบ จนถึงโรงกลั่นน้ำมันปาล์มมาตรฐานโลกที่แสดงให้เห็นกระบวนการผลิตน้ำมันพืช ซึ่งจะทำให้คณะศึกษาดูงานฯ ได้เห็นการทำงานอย่างเป็นระบบจากต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ” นางสาวรัฎดา ลาภหนุน ผู้จัดการด้านเทคนิค RSPO ประเทศไทยกล่าวที่มาของการจัดงาน

การดูงานครั้งนี้ เริ่มต้นกันที่ สวนปาล์มของ คุณอุดมศักดิ์ นัดดาศรีนะ  สมาชิก RSPO กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มน้ำ กะแดะพัฒนาปาล์มน้ำมัน ที่มีการบริหารจัดการสวนเป็นอย่างดีจนมีผลผลิตสูงกว่า 6 ตัน/ต่อไร่/ปี สูงกว่า ค่าเฉลี่ยทั่วไปของผลผลิตปาล์มในประเทศไทยกว่า 2 ตัน/ต่อไร่/ปี

สวนปาล์มของ คุณอุดมศักดิ์ นัดดาศรีนะ
©TASPO/ศรยุทธ รุ่งเรือง

โดยการเยี่ยมชมที่สวนนี้ ทาง คุณไกรวุฒิ ศิริอนันตภัทร์ นายกสมาคมโรงสกัดน้ำมันปาล์ม และกรรมการ บริษัท เอส.พี.โอ.อะโกรอินดัสตรี้ส์ จำกัด คุณสุกัญญา ศรีสุบัติ ผู้จัดการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปาล์มน้ำมันตาปี-อิปัน คุณอุไรวรรณ พ้นภัย ผู้จัดการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มน้ำกะแดะพัฒนาปาล์มน้ำมัน และคุณนิภาพร โพโพ้น ผู้ช่วยผู้จัดการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มน้ำกะแดะฯ ได้ร่วมให้การต้อนรับและถ่ายทอดข้อมูล การจัดการสวนของ คุณอุดมศักดิ์ จนถึงการบริหารจัดการกลุ่มวิสหกิจชุมชนปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นโมเดลสำคัญในการร่วมกันทำงาน ของกลุ่มเกษตรกรรายย่อย RSPO ในประเทศไทย

©TASPO/ศรยุทธ รุ่งเรือง

จากนั้นคณะดูงานฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมชม ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัด สถาบันวิจัย พืชไร่และพืชทดแทนพลังงาน กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อำเภอกาญจนดิษฐ์ มีพื้นที่กว่า 3,000 ไร่ โดยทำการศึกษาวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ปาล์มน้ำมัน และจำหน่ายพันธุ์ปาล์ม ซึ่งนักวิชาการของศูนย์ฯ ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาสายพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่เหมาะสมและทนต่อศัตรูพืช รวมถึงโรคที่เกิดกับปาล์ม น้ำมัน ซึ่งได้รับความสนใจจากคณะจากประเทศอินเดีย เป็นอย่างยิ่ง มีการสอบถามข้อมูลต่างๆ หลายประการ เช่น สายพันธุ์ปาล์มที่ศูนย์พัฒนาขึ้น การดูแลปาล์ม โรค และแมลงศัตรูพืช เป็นต้น

ช่วงบ่าย คณะดูงานฯ เดินทางไปชมการทำงานของกลุ่มทักษิณปาล์ม มีคุณตริน  พงษ์เภตรา กรรมการบริหารกลุ่ม ทักษิณปาล์ม ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ ให้การต้อนรับ นำชมสถานเพาะกล้าปาล์ม และโรงผลิตแก๊สชีวภาพของกลุ่มทักษิณ ปาล์ม ตลอดจนตอบข้อซักถาม

“ไทย มีโมเดลธุรกิจต่างจากประเทศอื่นๆ เรามีลานเท มีเกษตรกรรายย่อยที่ต่างกันมากกับประเทศอื่นๆ ปัญหาภายใน ก็ต่างกับประเทศอื่น เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย การจะขยายอุตสาหกรรมปาล์ม คือ การให้สัมปทานป่าไม้ ปัญหาหลัก ของเขา คือ เรื่องสิทธิในที่ดินระหว่างคนที่อยู่เดิม และผู้ที่ได้สัมปทานเข้าไปอยู่ใหม่ แต่ไทย ป่าถูกบุกเบิกมาตั้งแต่สมัย 50-60 ปีก่อน ปัญหาของเราจึงไม่ใช่แบบเดียวกับอินโดนีเซีย หรือ มาเลเซีย”  คุณตริน กล่าว

และว่า

“วันนี้เลยรู้สึกดีใจมาก ที่ได้นำเสนอเรื่องราวของอุตสาหกรรมปาล์มในประเทศไทยให้ชาวต่าวชาติได้รู้ว่า การนำ RSPO มาปฏิบัติในประเทศไทย ต้องมีแบบฉบับที่เหมาะสมกับประเทศเรา ประเทศอื่นใช้ RSPO ในการแก้ไขปัญหา ของเขาได้ ฉะนั้นเราก็ต้องหยิบโอกาสนั้นมาใช้เหมือนกัน เราต้องใช้ RSPO มาแก้ไขปัญหาของเราเอง แต่ว่าปัญหานั้น คืออะไร ต้องมานั่งคุยกัน และดูว่าส่วนไหนของ RSPO นำมาใช้แก้ปัญหาได้ เพราะในประเทศไทย RSPO จะมีความ ยากในเรื่องการทำประเมินพื้นที่ ไทยมีปัญหาเรื่องนี้มากกว่าอื่นๆ และสิ่งที่ไทยต้องเตรียมอีกเรื่อง คือ เรื่องของ EUDR ที่จะเช็คไปถึงต้นทาง เกษตรกร ต้องปรับตัวว่าต้องทำอย่างไรด้วย”

โรงผลิตก๊าซชีวภาพ
©TASPO/ศรยุทธ รุ่งเรือง
บ่อบำบัดน้ำเสีย
©TASPO/ศรยุทธ รุ่งเรือง
แปลงปลูกต้นกล้าปาล์ม
©TASPO/ศรยุทธ รุ่งเรือง
©TASPO/ศรยุทธ รุ่งเรือง

สำหรับการดูงานที่กลุ่มทักษิณปาล์มนี้ ทางคณะ ให้ความสนใจกับวิธีกำจัดของเสีย ไม่ว่าจะเป็นระบบบำบัดน้ำเสีย หรือโรงผลิตแก๊สชีวภาพ ที่ฉายภาพชัดเจนว่าในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน สามารถกำจัดของเสีย นำมาใช้ประโยชน์ และสร้างมูลค่าได้ทุกกระบวนการ

ช่วงค่ำ คณะดูงานฯ ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนาม MOU สนับสนุนการรวมกลุ่มและพัฒนาศักยภาพ ของ เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันประเทศไทย สู่การรับรองกระบวนการผลิตปาล์มน้ำมันยั่งยืนตามมาตรฐานโลก RSPO โดย คุณไกรวุฒิ ศิริอนันตภัทร์ นายกสมาคมโรงสกัดน้ำมันปาล์ม ดร.วันสาด ศรีสุวรรณ ประธานสภาเกษตรกร จังหวัดสุราษฎร์ธานี คุณสุมาตร อินทรมณี สมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ ดร.อิงเคอร์ แวน เดอ สลุยส์ ผู้อำนวยการ Market Transformation RSPO ณ โรงแรมวังใต้ เพื่อสนับสนุนการรวมกลุ่มเกษตรกร รายย่อย สร้างความรู้ความเข้าใจในกระบวนการผลิตที่สอดคล้องกับมาตรฐาน RSPO และเพิ่มผลผลิตปาล์มน้ำมัน ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลตามอัตราที่กำหนด ซึ่งเป็นอีกก้าวและคำมั่นว่าประเทศไทยจะสร้างเครือข่ายปาล์ม น้ำมันเพื่อความยั่งยืนอย่างมุ่งมั่นและต่อเนื่อง

ช่วงเช้าของวันที่ 15 พฤศจิกายน คณะเดินทางไป ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ลานเทคลองน้อยปาล์ม ของ คุณสุมาตร อินทรมณี นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประธานเครือข่ายแปลงใหญ่ภาคใต้ และประธานกลุ่ม RSPO คลองน้อย

สำหรับ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรกิจกรรม (ศพก.) เป็นศูนย์เรียนรู้การปลูกปาล์มที่น้อม นำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทาง ซึ่งคณะให้ความสนใจกับการปลูกพืชเสริมในสวนปาล์ม เช่น ใบเตย กล้วย ผักสวน ครัว และการเลี้ยงผึ้ง ซึ่งสามารถเพิ่มรายได้เสริมให้กับเกษตรกร ตลอดจนการผสมปุ๋ยอินทรีย์ และการเลี้ยงไก่ บ่อเลี้ยงปลา ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.)
©TASPO/ศรยุทธ รุ่งเรือง
ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.)
©TASPO/ศรยุทธ รุ่งเรือง

จากนั้นคณะเดินทางไปเยี่ยมชมโรงสกัดและโรงกลั่น และโรงงานน้ำมันพืชน้ำมันพืช ยี่ห้อ รินทิพย์ ของบริษัท นิวไบโอดีเซล จำกัด ในเครือบริษัท เพชรศรีวิชัย จำกัด (มหาชน) โดยมีนายทักษิณ ลี ผู้อำนวยการธุรกิจโรงงาน บริษัท นิวไบโอดีเซล เป็นผู้พาเยี่ยมชม

โรงงานแห่งนี้ดำเนินการผลิตในปี พ.ศ 2551 ด้วยเทคโนโลยีจากประเทศมาเลเซีย ที่มีความเชี่ยวชาญในการนำน้ำมันปาล์มมาผ่านกระบวนการกลั่นน้ำมัน และการผลิตไบโอดีเซล ต่อมาโรงงานได้ขยายการผลิตเพิ่มในส่วนของน้ำมันโอเลอีน และปัจจุบันโรงงานยังมี กระบวนการผลิตไฟฟ้าจากน้ำเสีย กากของเสียจากกระบวนการผลิต สำหรับใช้ทั้งภายในโรงงานและจำหน่ายให้ กับหน่วยงานรัฐ

สำหรับโรงงานผลิตน้ำมันพืช รินทิพย์ เป็นโรงงานมาตรฐานระดับสากล ไลน์การผลิตเดินเครื่อง วันละ 8 ชั่วโมง / 6 วันต่อสัปดาห์ การบรรจุน้ำมันใช้เครื่องจักรในการบรรจุทั้งแบบถุงและขวดในห้องปลอดเชื้อ และมีแรงงานเพื่อบรรจุ ลงกล่องและส่งเข้าโกดังต่อไป

โรงสกัดและโรงกลั่น และโรงงานน้ำมันพืชน้ำมันพืช ยี่ห้อ รินทิพย์ ของบริษัท นิวไบโอดีเซล จำกัด ในเครือบริษัท เพชรศรีวิชัย จำกัด (มหาชน)
©TASPO/ศรยุทธ รุ่งเรือง

ก่อนเดินทางกลับ คณะดูงานฯ ได้ไปสักการะพระบรมธาตุไชยา ที่วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน คู่เมืองสุราษฎร์ธานี และรับประทานอาหารมื้ออำลา จากนั้นจึงเป็นการบอกเล่าความรู้สึกของคณะดูงานฯ แต่ละทีม เกี่ยวกับการดูงานในครั้งนี้ ซึ่ง TASPO และ RSPO ประเทศไทย จะนำไปถอดบทเรียนสำหรับจัดกิจกรรมในครั้งต่อๆ ไป

รายงาน / ทีมข่าว TASPO