ผลวิจัยระบุชัด แผนพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันฯ ให้ความสำคัญ “ความยั่งยืน” เพิ่มขึ้น

©TASPO

หลักฐานที่แสดงว่ามีการยอมรับและรู้จักมาตรฐาน RSPO อย่างค่อยเป็นค่อยไปในไทย ตัวอย่างเช่น แผนพัฒนาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มจังหวัดสุราษฎร์ธานี และโครงการ SCPOPP เป็นโครงการพัฒนาการเกษตร 2 โครงการในระดับจังหวัด ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงวัตถุประสงค์ในการผลักดันการนำมาตรฐาน RSPO ไปใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาปาล์มน้ำมัน

จากรายงานสรุป หัวข้อ การพัฒนาปาล์มน้ำมันในประเทศไทย: แนวโน้มและความก้าวหน้าของความพยายามด้านความยั่งยืนในการผลิตและจัดหาน้ำมันปาล์ม เขียนโดย รศ.ดร. สุธัญญา ทองรักษ์ ดร. ไชยยะ  คงมณี และผศ.ดร. สิริรัตน์ เกียรติปฐมชัย

ได้ระบุถึง ผลการศึกษานัยเชิงนโยบายเกี่ยวกับการเติบโตของผลิตภาพ การปกป้องป่า ความหลากหลายทางชีวภาพ สิทธิในที่ดิน และการรับรองมาตรฐานความยั่งยืนที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันปาล์มและผลกระทบต่อการดำรงชีพของเกษตรกรและสิ่งแวดล้อม ว่า คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ได้จัดทำแผนพัฒนาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มที่สำคัญในอดีต 3 แผน ได้แก่ แผนพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม พ.ศ. 2551-2555 แผนพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม พ.ศ. 2556 – 2560 และยุทธศาสตร์การพัฒนาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มครบวงจร พ.ศ. 2560-2579

แผนพัฒนาทั้ง 3 ฉบับ เน้นส่งเสริมการปลูกปาล์มใหม่ในพื้นที่เหมาะสมและเพิ่มผลผลิต การดำเนินการตามแผนดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าบางประการในการบรรลุเป้าหมายการขยายพื้นที่ปลูกปาล์มใหม่ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2 ล้านไร่ หรือ 320,000 เฮกตาร์ ซึ่งส่วนใหญ่ขยายพื้นที่ปลูกไปในพื้นที่เกษตรกรรม เช่น สวนยางพารา นาข้าวที่ถูกทิ้งร้าง ทุ่งโล่ง และสวนผลไม้

ในแง่ชองผลผลิตที่ตั้งเป้าไว้ที่ 3.5 ตันต่อไร่ต่อปียังไม่บรรลุผล ในแง่ของสิทธิในที่ดิน ยังไม่มีการรายงานพื้นที่ปลูกปาล์มที่บุกรุกป่าในขณะนั้น มีเพียงพื้นที่เกษตรกรรมแบบดั้งเดิมถูกดัดแปลงเพื่อการปลูกปาล์มใหม่ มีเอกสารที่ดินของไทยบางประเภท เช่น ภ.บ.ท. 5 (8.6%) ซึ่งไม่สอดคล้องตามมาตรฐาน RSPO  

อย่างไรก็ตาม รัฐบาล มีความตระหนักเกี่ยวกับประเด็นสิทธิในที่ดินมาก และกำลังหาแนวทางที่จะจัดการกับประเด็นทางด้านกฎหมายและโครงสร้างที่ซับซ้อนและท้าทายของการถือครองที่ดินของประเทศดังกล่าว

เมื่อพิจารณาถึงแผนพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันฯ ฉบับที่ 2 และ 3 พบว่า มีการให้ความสำคัญกับมาตรฐานการผลิตและความยั่งยืนเพิ่มมากขึ้น แผนเหล่านี้มุ่งเน้นให้มีมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งรวมถึง GAP และ GMP สำหรับลานเทและโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ ตามลำดับ

©TASPO

แม้ว่ามาตรฐานความยั่งยืนจะได้รับการยอมรับในระดับนโยบายการพัฒนา แต่มาตรฐาน RSPO ไม่ได้ถูกกล่าวถึงอย่างชัดเจนในแผนพัฒนาเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานที่แสดงว่ามีการยอมรับและรู้จักมาตรฐาน RSPO อย่างค่อยเป็นค่อยไปในไทย

ตัวอย่างเช่น แผนพัฒนาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มจังหวัดสุราษฎร์ธานี และโครงการ SCPOPP เป็นโครงการพัฒนาการเกษตร 2 โครงการในระดับจังหวัด ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงวัตถุประสงค์ในการผลักดันการนำมาตรฐาน RSPO ไปใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาปาล์มน้ำมัน

ทั้งนี้ ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2565 มีสมาชิกผู้ปลูกปาล์มน้ำมันของ RSPO ประเทศไทยประกอบด้วยกลุ่มเกษตรกรรายย่อยอิสระ 63 กลุ่ม ในจำนวนนี้มี 19 กลุ่มได้รับการรับรองมาตรฐาน RSPO มีสมาชิกมากกว่า 5,400 คน มีพื้นที่สวนปาล์มที่ได้รับการรับรองประมาณ 170,594 ไร่ หรือ 27,295 เฮกตาร์  คิดเป็นร้อยละ 2.8 ของพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันทั้งหมด

สำหรับกลุ่มเกษตรกรรายย่อยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน RSPO นี้ มีความโดดเด่นเป็นพิเศษในจังหวัดสุราษฎร์ธานีและกระบี่ สาเหตุหลักมาจากความพยายามของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบและโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม เพื่อยกระดับการรับรองมาตรฐาน RSPO กระทั่งในช่วงแผนปัจจุบัน หน่วยงานภาครัฐ ได้เริ่มเข้ามามีส่วนร่วมและให้เกษตรกรในโครงการพัฒนาเกษตรกรเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น

รายงาน / ทีมข่าว TASPO